วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พันธุ์กระต่าย






เชคเกอเรด ไจแอนท์ กระต่ายพันธุ์ดุ
ขึ้นชื่อว่า "กระต่าย" ใครๆ ต่างก็มองออกถึงภาพความน่ารักของเจ้าขนปุย ตากลม หูยาว หนึ่งในสัตว์ตัวน้อยน่าเลี้ยง ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้รับความนิยมอย่างหวือหวาในวงการสัตว์เลี้ยง แต่ก็นับได้ว่าเป็นสัตว์ที่ครองใจแฟนคลับคนรักกระต่ายได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพราะนอกจากรูปร่างของเจ้าหูยาวจะน่าอุ้ม น่ากอดแล้ว กระต่ายสวยงามยังนับเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้พื้นที่ไม่มาก อีกทั้งไม่ส่งเสียงดังให้รำคาญใจ เนื่องจากอาศัยกลิ่นเป็นหลักในการสื่อสาร และอีกเหตุผลสำคัญที่ผู้นิยมตัดสินใจเลือกเลี้ยงกระต่ายก็คือ ลักษณะนิสัยอันอ่อนโยน สุภาพ ดูบอบบางน่าทะนุถนอม บางสายพันธุ์มีความกระตือรือร้น บ้างเป็นกระต่ายขี้ประจบ ซึ่งส่วนใหญ่สายพันธุ์กระต่ายที่นิยมเลี้ยงและเป็นที่รู้จักกันดีนั้นมีขนาดเล็กและไร้ซึ่งความดุร้าย อาทิ พันธุ์ เทดดี้ แบร์ (Teddy Bear) วู้ดดี้ ทอย (Woody Toy) มินิ ล็อป (Mini Lop) โพลิช (Polish) เนเธอร์แลนด์ ดวาร์ฟ (Netherland Dwarf) เจอร์ซี่ วู้ดลี่ (Jersey Wooly) มินิ เร็กซ์ (Mini Rex) ฯลฯ เหล่านี้ล้วนจัดอยู่ในกลุ่มกระต่ายขนาดเล็ก ซึ่งหากไม่อยู่ในสภาวะที่ตื่นตระหนก ตกใจกลัว หรือมีความเครียดถึงขีดสุด เจ้ากระต่ายน้อยก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะนิสัยสุภาพ ไม่ก้าวร้าว ยื่นมือลูบคลำ สัมผัสความนุ่มของขนได้อย่างสบาย แต่ไม่แน่เสมอไป!! เพราะมีกระต่ายสวยงามบางสายพันธุ์ขึ้นชื่อเรื่องความดุเป็นเอกลักษณ์ อย่างเจ้า เชคเกอเรด ไจแอนท์ (Checkered Giant) หนึ่งในกระต่ายพันธุ์ยักษ์ ตระกูลเดียวกับ เฟรมิช ไจแอนท์ (Flemish Giant) ที่เคยโด่งดังด้วยขนาดใหญ่บึ้มของรูปร่าง ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 13 กิโลกรัม แต่สำหรับ เชคเกอเรด ไจแอนท์ แม้จะยังไม่สร้างประวัติการณ์ด้วยรูปร่างใหญ่โตขนาดนั้น แต่ก็กินขาดเรื่องความดุ เพราะมีนิสัยหวงแหนดินแดน ชนิดที่ว่า "ถิ่นข้า ใครอย่าแตะ!!" ไม่เช่นนั้น ผู้บุกรุกจะถูกจู่โจมฝากรอยฟกช้ำดำเขียวให้กลับไปรักษา เว้นเฉพาะเจ้าของผู้เป็นที่รักของมันเท่านั้น หากคนแปลกหน้ายื่นมือเข้าใกล้หวังสัมผัส อาจจะโดน "แง่ม!!" ด้วยคมฟันของกระต่ายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และด้วยลักษณะนิสัยนี้เอง จึงถูกอกถูกใจนักเลี้ยงกระต่ายที่ชื่นชอบความท้าทาย ซึ่งในเมืองไทยบ้านเรานั้นหาพบกระต่ายพันธุ์นี้ได้น้อยมาก และยังไม่พบข้อมูลชัดเจนว่ามีบรีดเดอร์ผู้ใดเพาะขยายพันธุ์กระต่ายพันธุ์นี้ในเชิงพาณิชย์ แต่ในต่างประเทศโดยเฉพาะแถบยุโรปและอเมริกา มีการเพาะขยายพันธุ์อย่างจริงจังและรวมกลุ่มเป็นชมรม เช่น American Checkered Giant Rabbit Club หรือ ACGRC แต่ก็ใช่ว่าบ้านเราจะหมดโอกาสพบเห็นเจ้ากระต่ายพันธุ์นี้ตัวเป็นๆ เพราะเวลานี้ คุณมณฑิรา สุวรรณมาศ หรือ คุณยอ เลขานุการชมรมผู้เพาะเลี้ยงกระต่ายแห่งประเทศไทย ผู้คลุกคลีกับกระต่ายมาตลอดมากกว่าสิบปี กำลังเลี้ยงเจ้าเชคเกอเรด ไจแอนท์ ไว้เป็นการส่วนตัวเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในการปราบกระต่ายพันธุ์ดุให้อยู่หมัด "สายพันธุ์กระต่ายที่ดุส่วนใหญ่จะเป็นแฮร์ (hare) เป็นกระต่ายป่า ไม่ใช่แรบบิท (rabbit) และถ้าขึ้นชื่อว่าแรบบิทแล้ว เชคเกอเรด ไจแอนท์ ขึ้นชื่อว่าดุที่สุด แต่ก็มีสายพันธุ์ดุสายพันธุ์อื่นๆ อีกที่เป็นกระต่ายหวงที่ คือดุเหมือนกันแต่ไม่ถึงกับกัด ตอนนี้ยอกำลังเลี้ยงกระต่ายดุอยู่ เพราะมีความรู้สึกว่าท้าทาย หากเราสามารถฝึกฝนหรือสื่อสารให้เขารู้จักเจ้าของเขาก็จะเชื่องกับเรา" เธอเล่าถึงเหตุผล เชคเกอเรด ไจแอนท์ เป็นกระต่ายที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Oryctologus cuniculus เป็นกระต่ายที่มีลักษณะสวยงาม โครงสร้างใหญ่ มีน้ำหนักเมื่อโตเต็มที่อย่างน้อย 11 ปอนด์ หรือราวๆ 5 กิโลกรัม ช่วงอายุโดยเฉลี่ย 8 ปี ถูกพัฒนาสายพันธุ์จากกระต่ายเนื้อสู่กระต่ายเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน และเพื่อประกวดประเภทกระต่ายสวยงาม ปัจจุบันมีการซื้อขายในราคาประมาณตัวละ 12,000-15,000 บาท ลักษณะเด่นของกระต่ายพันธุ์นี้คือ เป็นกระต่ายทรงโค้ง ซึ่งสังเกตได้ว่าลำตัวจะโป่งพอง ขายาว และมีลายชี้เฉพาะ คือ ปากดำ หูดำ เบ้าตาดำ มีเต็มดำจุดหนึ่งที่แก้ม มีทางยาวตามสันหลัง และที่สะโพกจะมีสองจุด ห้ามเกินห้ามขาด มีทั้งหมด 3 สี คือ ขาวดำ ดำล้วน และขาวเทา ทุกสีต้องมีแต้มดำเหมือนกันทุกประการ แต่หากเป็นสีดำล้วนจะไม่สามารถประกวดได้ เนื่องจากเห็นลายไม่ชัดเจน "เชคเกอเรดฯ เป็นกระต่ายอยากรู้อยากเห็น ค่อนข้างมีความกระตือรือร้นมาก และต้องการที่วิ่งเยอะ ฉะนั้น จึงต้องการพื้นที่ บริเวณค่อนข้างกว้าง จะปล่อยเลี้ยงในกรงเหมือนกระต่ายทั่วไปคงจะไม่ได้ เพราะกระต่ายพันธุ์นี้จะต้องวิ่ง และมีนิสัยหวงถิ่น หากสมมติให้เขาอยู่ในห้อง เขาก็จะรู้สึกรักและหากใครเข้ามาก็จะมีอาการหวงที่ นิสัยค่อนข้างดุ ตัวเมียจะหวงถิ่นกว่าตัวผู้" คุณยอ อธิบาย ส่วนที่ว่าจะดุสักแค่ไหน ?!! ขอคลายข้อสงสัยว่า ดุในระดับที่แขนของคุณยอมีรอยช้ำแดงๆ จากฟันกระต่าย และเห็นเป็นรอยเขียวจากแรงกระแทก คุณยอ บอกว่านี้เป็นเพียงการทักทายแบบเบาะๆ ของเจ้าหูยาวเท่านั้น เพราะเพิ่งนำเข้ามาเลี้ยงได้ไม่นาน "จากรายงานการประชุมใหญ่ที่อเมริกาปีที่แล้ว พบว่ารายที่หนักสาหัสที่สุดคือ มีเด็กที่ไม่รู้เรื่องยื่นหน้าไปใกล้กรงแล้วโดนกระต่ายกัดจนจมูกเปิดขึ้นมา พวกนี้ต้องยอมรับว่าแรงจริงๆ มันจะซ่าๆ เหมือนหมาเลย" คุณยอ บอก ดังนั้น เจ้าของผู้เลี้ยง เชคเกอเรด ไจแอนท์ ได้ ต้องเป็นผู้มีความรู้เรื่องกระต่ายพอสมควร เพราะไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดใด ในแต่ละสายพันธุ์ย่อมมีลักษณะนิสัยที่แตกต่าง แต่สำหรับเจ้าหูยาวพันธุ์นี้แม้จะดุมากแค่ไหน หากอยู่ในอาณาบริเวณที่ไม่ใช่ของตัวเองก็จะเป็นกระต่ายที่เจียมเนื้อเจียมตัว แต่จะออกแนวซุกซนไม่อยู่เฉย จึงไม่น่าแปลกใจที่เวลาคุณยอพาไปไหนๆ ด้วย จะต้องใช้สายจูงคอยควบคุม เหมือนสุนัขไม่มีผิด แต่หากเจ้าของทำความคุ้นเคยได้ดีแล้ว จะสามารถฝึกฝนให้เชคเกอเรดฯ เป็นกระต่ายนักกีฬา หรือเป็นกระต่ายกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางตัวยงของวงการได้อย่างดี เพราะเป็นกระต่ายพันธุ์ที่วิ่งเร็วและกระโดดสูง ครองแชมป์ในอเมริกามาแล้วนักต่อนัก ส่วนเรื่องการดูแล นอกจากเอาใจใส่เรื่องปฏิสัมพันธ์เป็นพิเศษ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากการเลี้ยงทั่วไป ซึ่งเวลานี้คุณยอเองก็ภูมิใจในระดับหนึ่ง เพราะสามารถใช้ความรักความผูกพันธ์สยบเจ้าเชคเกอเรดฯ เพศผู้เป็นผลสำเร็จ อ่านถึงบรรทัดนี้ บางท่านอาจเป็นห่วง กลัวว่าหากกระต่ายพันธุ์นี้มีการซื้อขายแพร่หลายในบ้านเราจะเกิดอันตราย เรื่องนี้คุณยอตระหนักดีและยืนยันว่าตนนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านแบบส่วนตัวเท่านั้น ไม่คิดจะเพาะขยายพันธุ์ เพราะเป็นเรื่องเสี่ยงมาก เพราะความรู้เรื่องการเลี้ยงกระต่ายในเมืองไทยยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร และหากกระต่ายยังดุอยู่ ถ้าเกิดกรณีกระต่ายป่วย ผู้เลี้ยงจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย อันตรายจึงไม่ตกอยู่เพียงตัวผู้เลี้ยงเอง แต่เป็นอันตรายกับตัวกระต่ายด้วย _______________________ กระต่ายไทย(Thai Rabbit) หมายถึงกระต่ายที่เลี้ยงกันโดยทั่วไปในประเทศไทย กระต่ายเหล่านี้ผสมพันธุ์ปนเปกัน ไม่มีการคัดเลือกพันธุ์ แต่ที่พบมักมีสีขาว สีดำขาว และสีน้ำตาลเทา เป็นกระต่ายขนาดเล็ก โตเต็มที่หนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม



กระต่ายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายที่มีเชื้อสายมาจากกระต่ายแถบประเทศไทย อินโดจีน และพม่า และถูกนำไปเลี้ยงในเขตหนาว เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดเล็ก สีเทาอ่อน เลี้ยงง่าย อดทน โตเต็มที่หนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม


_____________________________________________________

พันธุ์ซิลเวอร์ฟ๊อคซ์
เป็นกระต่ายพันธุ์ขนาดกลาง มีสองขนิดคือพันธุ์สีน้ำเงิน และพันธุ์สีดำ มีขน Undercoat สีดำ และพันธุ์สีน้ำเงินมีขน Undercoat สีน้ำเงิน แต่ขน Guard hair ทั้งสองพันธุ์นี้สีเงินยวงยาวกว่า 40 มิลลิเมตร สลวยคล้านขนเฟอร์ของสุนัขจิ้งจอก โตเต็มที่หนักประมาณ 4-5.5 กิโลกรัม


_____________________________________________________
พันธุ์หิมาลายัน
เป็นพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดแถบตอนเหนือและใต้ของเทือกเขาหิมาลัย เป็นกระต่ายขนาดเล็ก ขนสั้น สีขาว แต่หปลายจมูก ใบหู ปลายเท้า และหางสีดำ เนื่องจากเป็นกระต่ายขนาดเล็กจึงนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่น หนักประมาณ 1.5-3



_____________________________________________________

พันธุ์เฟอร์น
กระต่ายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศเบลเยี่ยมมีหลายชนิด บางชนิดสีน้ำเงิน บางชนิดสีดำ แต่ที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบันเป็นสีขาว ตาสีน้ำเงินเป็นกระต่ายขนาดกลาง โตเต็มที่หนัก 3.6-5 กิโลกรัม

_____________________________________________________
พันธุ์อเมริกัน ซินซิลล่า
Chinchillaกระต่ายพันธุ์นี้สีเทาคือมีขน Under Coat Hair สีน้ำเงิน ส่วนขน Guard Hair สีดำและโคนสีขาว เป็นกระต่ายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการผสมมาจากกระต่ายพันธุ์ซินซิลล่า เป็นกระต่ายขนาดกลาง สันหลังใหญ่ และเนื้อเต็ม โตเต็มที่ประมาณ 4-5.5 กิโลกรัม



_____________________________________________________
พันธุ์คาลิฟอร์เนีย
เป็นกระต่ายสีขาว มีสีดำหรือเทาที่บริเวณใบหู จมูกเท้า ปลายเท้า และปลายหาง ตาสีชมพู เป็นกระต่ายขนาดกลางโตเต็มที่หนัก 3.5-4.5 กิโลกรัม


_____________________________________________________
พันธุ์ โปลิช
มีต้นกำเนิดที่เบลเยี่ยม และได้นำเข้าไปที่ อังกฤษ ในปี 1884 เป็นกระต่ายเล็ก ที่มีหูสั้น และ ปลายหูชนกัน เพราะขนาดที่เล็กและลักษณะใกล้เคียงกับ Netherland Dwarf จึงมีหลายๆคนสับสนกับ Netherland Dwarf แต่จริงๆ แล้ว เค้าจะใหญ่กว่า Netherland Dwarf เล็กน้อย และ หัวไม่กลมมนเหมือน Netherland Dwarf น้ำหนักประมาณ 1.4 to 1.8 กิโลหรัม กระต่าย โปลิส ที่ว่าสวยเนี่ย 1. หูค่ะ ต้องสั้นน่ารักปลายหูควรจะชนกัน ความยาวของหูต้องไม่เกิน 3 นิ้วค่ะ 2. ลักษณะใบหู ถ้าจะให้สวยเนี่ย ลักษณะหูทั้ง 2 ข้างอยู่ชนแนบติดกันและตั้งตรง ไม่เอียงเข้า เอียงออกนะคะ ขนสั้นหนา 3. ตาควรจะกลมโต ขนของ Polish จะเป็นดูเรียบเป็นเงา หน้าจะดูไม่กลมแบนเหมือนกับ Netherland Dwarf ค่ะ และเมื่อมองจากด้านข้าง กระโหลก จะมีส่วนโค้งเล็กน้อย จากหูถึงจมูก หูควรจะยาวไม่เกิน 3 นิ้ว โครงควรจะแน่น และ เมื่อยืนโดยวางขาหน้า และ ขาหลังราบกับพื้นแล้ว สะโพกจะกว้างกว่าไหล่เล็กน้อย เส้นแนวตัวจะเริ่มจากส่วนหูค่ะ ไล่สูงขึ้นไปถึงดังภาพข้างบน ส่วนเว็บนี้ แนะนำค่ะ ขอบอก เป็นวิธีดูว่า Polish ที่สวยเนี่ย มันต้องเป็นยังไง
http://home.att.net/~polish/learn/judging.html ลองคลิ๊กเข้าไปดูนะคะ เค้าจะบอกเลย ว่า ลักษณะไหนสวย เช่น หน้าควรจะสั้นหรือยาวแค่ไหน ตาห่างแค่ไหนดี หูต้องติดกันยังไง ยาวแค่ไหน เป็นต้น เป็นภาพวาดประกอบเข้าใจง่าย สีของ Polish ที่เป็นที่ยอมรับของสถาบัน ARBA ก็คือ สี Black, Blue, Broken, Chocolate, Blue eyed White และ Albino ค่ะ เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ http://home.att.net/~polish/learn/pictures.html หากใครสนใจอยากรู้เรื่อง กระต่ายพันธุ์ โปลิส มากกว่านี้เข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ http://home.att.net/~polish/index.html http://www.centralpets.com/pages/critterpages/mammals/rabbits/RBT6040.shtml








_____________________________________________________
พันธุ์ซิลเวอร์มาเท็น
เป็นกระต่ายขนหนานุ่มมีลักษณะขนสวย เป็นกระต่ายขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนัก 6.5 - 8.5 ปอนด์ เป็นกระต่ายที่ชอบเล่น วิ่งเล่น และชอบของเล่นเช่นกระป๋อง ชอบอยู่ที่สนามหญ้า